วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วิเคราะห์นิราศคำโคลงเสด็จไปทัพเวียงจันทน์

วิเคราะห์นิราศคำโคลงเสด็จไปทัพเวียงจันทน์

(พระเจ้าบรมวงศ์เธอสมเด็จกรมพระยาเดชาดิศร)

การแบ่งประเภทของนิราศ
๑. แบ่งตามรูปแบบการเขียน            : มีบทสดุดี
๒. แบ่งตามชนิดคำประพันธ์          : เป็นร้อยกรอง ประเภทโคลง
๓. แบ่งตามวิธีการพรรณนา             : เป็นนิราศที่ยึดการเดินทางคร่ำครวญ
จุดมุ่งหมายและแนวการเขียน เป็นนิราศประเภทคร่ำครวญ
ผู้แต่งต้องการแสดงอารมณ์สะเทือนใจที่จากนางเป็นสำคัญ
๔. แบ่งตามเนื้อหา                             : เป็นนิราศแท้ คือ เดินทางจากที่อยู่และจากนางจริง ผู้แต่ง แสดง
ความในใจพร้อมๆกับที่บรรยายเส้นทาง เป็นนิราศพรรณนา
อารมณ์ โดยมุ่งแสดงความอาลัยรักที่ต้องจากนางเน้นอารมณ์
มากกว่าการเดินทางเพียงบันทึกเส้นทางคร่าวๆ 
ลักษณะคำประพันธ์
โคลงนิราศตามแบบสมัยเก่า คือ เป็นร่ายสุภาพและตามด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑๖๓ บท
เริ่มสำนวนนิราศตั้งแต่โคลงบทที่ ๖ เป็นต้นไป

เนื้อหาสาระ

                เนื้อหาเป็นการพรรณนาถึงสตรีที่รักตามขนบธรรมเนียมของวรรณคดีนิราศ กล่าวถึงการเดินทางด้วยกระบวนเรือทวนลำน้ำเจ้าพระยาขึ้นไปถึงกรุงเก่า แล้วแยกเข้าลำน้ำป่าสักไปถึงท่าเจ้าสนุกสถานที่ต่างๆ รายทางเรียงตามลำดับเช่นเดียวกับนิราศพระบาทของสุนทรภู่ (สุนทรภู่แต่งนิราศพระบาทเมื่อพุทธศักราช ๒๓๕๐ในสมัยรัชกาลที่ ๑ ) ต่อจากนั้นกระบวนเรือผ่าน ท่าแดง ท่างาม (ท่าหลวง) ยางนม หัวหิน เริงราง บ้านม่วง บ้านกรูด บ้านกง ปากบาง สาวไห้ บ้านพยาว ท่าราบ บ้านดาวเรือง บ้านอ้อย ปากเพรียว บ้านกล้วย ช่องผึ้ง ท่าวัว บ้านกอก แก่งเมือง หนองบัว ท่าเยี่ยม บ้านตาลเดี่ยว และจบความในนิราศเมื่อตั้งค่ายหลวงที่บ้านขอนขว้าง
                ระยะทางตั้งแต่ท่างาม (ปัจจุบันเรียกว่า ท่าหลวง ) จนถึงบ้านขอนกว้างนั้น อยู่ในท้องที่จังหวัดสระบุรี

การตั้งชื่อนิราศ
                ตั้งตามเหตุการณ์และสถานที่กรมหมื่นเดชอดิศรเสด็จไปทัพเวียงจันทน์ นิราศเรื่องนี้ไม่ได้กล่าวถึงเนื้อหาการเดินทางไปจนถึงเวียงจันทน์ ซึ่งตามฉบับพิมพ์พุทธศักราช ๒๔๖๖
เรียกว่า โคลงนิราศกรมหมื่นเดชอดิศรเสด็จไปทัพเวียงจันทน์และเนื่องจากนิราศเรื่องดังกล่าวพรรณนาความจบลงในเขตท้องที่เมืองสระบุรีนี้เอง จึงน่าจะเรียกชื่อว่า นิราศสระบุรี ได้อีกอย่างหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น